www.facebook.com/burmese

พม่าเที่ยวได้ทั้งประเทศ อ่างสบายใจ มาตรฐานบริการ ไทยแลนด์

13 ธ.ค. 2559

ซากรถญี่ปุ่น บนเขาแดนน้อย ทางไปเมืองมะริด

มิงกะลาบ่า คุณผู้อ่านท่านที่เคารพ
บนเส้นทางสายสิงขร ช่วงเขาแดนน้อย ก่อนถึงศาลไทย-พม่า บนไหล่เขาด้านซ้ายมือ มีซากรถทำทางของญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่สองจอดอยู่ ชาวบ้านเรียกว่า "รถตาย" เป็นอนุสรณ์ให้คิดถึง ความสูญเสียของสงครามมหาเอเชียบูรพา ที่ไทย จำต้องเลือกข้าง หากย้อนรำลึก ต้องเปิดฉากแรกที่ ด่านสิงขร



ที่ในการเดินทางผ่านเข้าสู่ประเทศพม่า มาตั้งแต่อดีต เป็นเส้นทางที่แคบที่สุดประมาณ ๑๔ กิโลเมตร ตำบลคลองวาฬ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ไปยังระหว่างชายแดนประเทศไทย ผ่านเทือกเขาตะนาวศรี ที่มีความสูงเพียง ๒๔๕ เมตร ( ๘๐๔ ฟุต) เข้าสู่ เมืองมูด่อง ( Muw daung ) ผ่านเมืองตะนาวศรี และ เมืองมะริด ประเทศเมียนมาร์

เปิดปฏิทินย้อนไปวันที่ .... 
๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๘๔ เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์สงครามได้อุบัติขึ้น ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กำลังทหารญี่ปุ่น ๑ กรมผสม เดินทางโดยเรือรบทอดสมอหลบอยู่ด้านหลังเขาล้อมหมวก เพื่อเตรียมยกพลขึ้นบกยึดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเป็นเส้นทางเดินทัพผ่านเข้าประเทศพม่าทางช่องทางด่านสิงขร เมื่อ เวลาประมาณ ๐๔.๐๐ น.


ได้มีการประทะกับกองกำลังทหารไทย กองบินน้อยที่ ๕ รบยันไว้จนได้รับโทรเลข ตอบกลับมาจาก จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี และ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดว่า ทางรัฐบาลยินยอมให้ฝ่ายญี่ปุ่นเดินทัพผ่านไปยังประเทศพม่าได้ เหตุการณ์การสู้รบจึงสงบลง เมื่อ ประมาณ ๑๔.๐๐ น. กองกำลังทั้งสองฝ่าย จึงมาปรับความเข้าใจซึ่งกันและกัน พร้อมทั้งสำรวจความเสียหายทั้งสองฝ่ายด้วย ในการรบครั้งนั้น มีผู้บาดเจ็บ ล้มตาย จำนวนหนึ่งทั้งสองฝ่าย

จากนั้น กองกำลังของญี่ปุ่นจึงเคลื่อนกำลัง ออกช่องด่านสิงขร เข้าสู่ประเทศพม่า เพราะเป็นช่องทางที่แคบ และไม่ผ่านภูเขาสูงมาก

ซากรถยนต์ของกองทัพญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ที่ทิ้งอยู่บริเวณ เขาแดงน้อย ซึ่งเป็นส่วนที่สูงของเขามูด่อง จึงเป็นวัตถุให้รำลึกถึงความเจ็บปวดและบาดแผลของสงครามได้เป็นอย่างดี

ฟังชาวสิงขรเล่า แต่เดิมรถลากของญี่ปุ่นคันนี้ ยังใช้การได้ดี เมื่อครั้งกิจการตัดไม้ที่แถบนี้เฟื่องฟู ชาวบ้านก็นำมาใช้ลากไม้ จนถึงสมัยเมื่อทหารพม่าปราบปรามกลุ่มกะเหรี่ยง ( นายพลโบเมี๊ยะ ) ได้อย่างสเด็จน้ำนั่นแหละ กิจการตัดไม้ของคนไทย ก็ถูกระงับ โดยปริยาย ... รถญี่ปุ่น ยุ่นปี่ แม้จะยี่ห้อ มิตซูบิชิ ก็หมดประโยชน์ ถูกทิ้งข้างทาง ไว้โดยประการ ฉะนี้
ถ้าทางการขยายไหล่ทาง ตรงนี้ ... เชื่อว่าอีกไม่นาน ซากรถคันนี้ก็จะหายไป
อย่างแน่นอน ตามกฏ อนิจจัง
อิอิ...

ไปเที่ยวเมืองมะริด จอดรถลงสำรวจสักห้านาที พอให้หวนระลึกถึงอดีต
จะทำให้การท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงอนู และจินตนาการบ้าง นะครับ


ขอบคุณข้อมูลจาก http://oknation.nationtv.tv/blog/kingkaoz “วีรกรรมกองบินน้อยที่5 จ.ประจวบ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น