วัดต่อเจ้า เดิมเป็นที่ตั้งของเจดีย์ โปงเงี๊ยต ตั้งชื่อตามภูเขาที่ตั้ง ต่อมาได้สถาปนาเป็นวัดต่อเจ้าราวปีพศ. 2209 รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์ มีเจ้าอาวาสมาแล้วทั้งสิ้น สิบสี่รูป (เจ้าอาวาสรูปที่สอง เป็นคนไทย) ปัจจุบันวัดต่อเจ้าเป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรม วัดและพระพุทธรูปโบราณจะอยู่ถัดจากวัดเดิมเข้าไปทางด้านหลัง มีทางเดินลาดแบบขั้นบันได ไปถึงประตูทางเข้ามีกุญแจปิดตลอด การเข้าชมต้องขออนุญาต ท่านเจ้าอาวาส ก่อนทุกครั้ง
วัดตอเจ้าแปลว่าวัดป่า รอบอุโบสถมีพัธสีมานอก และสีมาใน โบสถ์เป็นที่ประดิษฐานพระประธาน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปแบบผสมผสานศิลปะตะนาวศรี มีพระกรรณ ยาวถึงบ่า พระรัศมีแบบอยุธยา พระพักต์เป็นศิลปะนครศรีธรรมราช และจีวรเป็นริ้วปลายกระจายออก ศิลปะแบบพม่า ในขณะที่พระพุทธรูปหน้าพระประธานเป็นศิลปอยุธยา แต่ถูกแปลงเป็นพม่า คงเหลือแต่จีวรที่เป็นลักษณะอยุธยา หลังพระประธาน มีพระปางไสยยาสน์ ทรงจีวรแนบชิดพระวรกายแบบอยุธยา หน้าพระอุโบสถ มีศิลาจารึกสลักเป็นภาษาล้านนาโบราณ หรือภาษาพม่าโบราณ
พระวิหารประดิษฐานพระทิพยภาวนานันทะอนุราษฏร์รังสี องค์ขนาดใหญ่ ศิลปแบบพม่า อายุ 118 ปี ประดิษฐานอยู่บนชุกชีไม้สัก มีซุ้มไม้สักบรรจงประณีต ศิลปะมัณฑเลย์ พระวิหารสร้างขึ้นในสมัยอาณานิคม
ภายนอกโบสถ์มีพระพุทธรูปตั้งเรียงรายรอบสี่ทิศ ภายใต้วิหารแบบหลังคาลดชั้น ศิลปะพม่า พระพุทธรูปเหล่านี้ถูกทุบเสียหายและต้องบูรณะขึ้นใหม่
หน้าโบสถ์มีรูปประติมากรรม ที่ให้ตีความได้ เป็นนัยต่าง ๆ ของเมืองมะริด
ติดต่อเที่ยวเมืองมะริด 062-332-7229
หรือ Line ID: akmtourism
เรื่องและภาพโดย "โกซีนยอ"
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น