มิงกะลาบ่า คุณผู้อ่านท่านที่เคารพรัก
เพื่อให้การท่องเที่ยวเมืองมะริด มีรสชาติ อันออกรส ไกด์ท้องถิ่นท่านบอกว่า มะริด เป็นคำแผงมาจากคำว่า "หม่าริด" ซึ่งแปลว่าที่ผูกม้า ก็เห็นจะเข้าเค้า เพราะในสมัยอยุธยานั้น กองทัพอันเกรียงไกรของสมเด็จพระนเรศวร ก็คือกองกำลังทหารม้า และม้าที่จะทำการรบได้ดีนั้น น่าจะเป็นม้าที่นำเข้าจากเปอร์เซีย เช่นม้าสีหมอกของพ่อนักรักขุนแผน กระผมนายมะริด จะยกสาธกให้ท่านได้วินิจฉัย ดังนี้
ในกลอนเสภาท่านว่าไว้ดังนี้
"มาถึงสิงขรผ่อนพักหยุด ปล่อยม้าอุตลุดให้กินหญ้า
กรมการกุยปราณส่งเนื่องมา ผ่านฉะอำถึงท่าเพชรบุรี"
"ม้าสีหมอก คือม้าประเภทไหน"
ม้าสีหมอกเป็นม้าเทศ สัญชาติอาหรับ-เปอร์เซีย ลงเรือผ่านอินเดีย มาขึ้นบกที่ท่าเรือเมืองมะริด ครั้นแล้วหลวงทรงพลกับพันภาณจาก กรุงศรีอยุธยาไปซื้อมาผ่านเส้นทางตะนาวศรี สิงขร เข้ากุยบุรี เลี้ยงไว้ที่เพชรบุรี จนขุนแผนมาเห็นจึงซื้อไว้เป็นม้าคู่ใจ
ไม่ธรรมดาเลยใช่ไหมครับ ม้าอาหรับ-เปอร์เซีย ตัวนี้
เมืองมะริดสมัยอยุธยาเป็นที่จอดพักเรือสินค้าที่มาจากเปอร์เซีย-อาหรับ จากอินเดีย จากยุโรป จากจีน ในเมืองมะริดจึงเต็มไปด้วยพ่อค้าผู้มั่งคั่ง ทางกรุงศรีอยุธยา ถึงกับจ้างผู้มีความสามารถทางภาษาและการค้าขายไปเป็นเจ้าเมือง เพื่อใช้ภาษาในการติดต่อค้าขายกับชาวยุโรป เลยเชียว
สิงขรในกลอนเสภา คือ ด่านสิงขร ที่เป็นเมืองสิงขรเก่า ปัจจุบันอยู่ในต.เทียบกุล อ.ตะนาวศรี จ.มะริด อีกเรื่องคือ พระอภัยมณีกับศรีสุวรรณ ถูกขับจากกรุงรัตนา (รัตนโกสินทร์) ก็ไปทางเพชรบุรี ผ่านปราณบุรี-สามร้อยยอด-กุยบุรี ออกด่านสิงขร มีกลอนสุนทรภู่ บอกไว้ในพระอภัยมณีว่า
ออกเดินทางกลางเถื่อนให้เดือนเศษ ออกพ้นเขตเขาไม้ไพรสิงขร
ถึงเนินทรายชายทะเลชโลทร ในสาครคลื่นลั่นสนั่นดัง
ชายทะเลคลื่นลั่นสนั่นดังในที่นี้ คือชายฝั่งทะเลอันดามันที่พระอภัยมณีพบสามพราหมณ์ แล้วถูกผีเสื้อสมุทรฉุดลักหลับลงไปทางหมู่เกาะอันดามัน
รู้จักเมืองมะริดมากขึ้นแล้วนะครับ
ถ้างั้น เตรียมจองทัวร์ไปกับ AKM Tourism คลิกที่นี่เลยครับ
หรือ TEL: 062-332-7229 นายมะริด คิดถึงสาวไทย
สะพานข้ามแม่น้ำตะนาวศรี