เตรียมจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นด่านสิงขร-มะริด โดย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าภาพ

มิงกะลาบ่า คุณผู้อ่านท่านที่เคารพ แฟนานุแฟนผู้สนในเมืองมะริด ทุกท่าน

กระผมขึ้นหัวข้อข่าว เตรียมจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นด่านสิงขร-มูด่อง นั้นมาจากการประชุมเชื่อม ความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ มะริด ที่ห้องประชุมศูนย์ประสานงานภาครัฐ เอกชน ไทย-พม่า ตั้งอยู่กลางตลาด บ้านด่านสิงขรนั้นเอง ฝ่ายไทยมีท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน มีหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดกว่า 32 หน่วยงานร่วมประชุม ส่วนฝ่ายพม่านั้นมีนายอำเภอตะนาวศรี นายอำเภอมูด่องและข้าราชการท้องถิ่น และภาคเอกชนที่มูด่องเข้าร่วมประชุม นั่งกันคนละฟากของโต๊ะรูปตัว U บรรยากาศบางช่วงดูน่าเกรงขามตึงเครียด บางช่วงก็ผ่อนคลาย แต่ออกจะผ่อนคลายมากกว่าเพราะการพูดแต่ละฝ่ายไม่รื่นไหล คือต้องผ่านล่าม โดยอาจารย์สมเกียรติเป็นล่ามแปลทั้งไทย เป็นพม่า และแปลทั้งพม่าเป็นไทย เมื่อเสร็จการประชุม มีการถ่ายรูปร่วมกันเสียก่อน แล้วต่อด้วยรับประทานอาหารร่วมที่ร้านอาหารผู้ใหญ่ฉอ้อน ... งานนี้นายมะริด ขอบันทึกการประชุมแบบเอาบันเทิงเป็นหลัก สาระ เป็นรองนะขอรับ ... 

การประชุมครั้งนี้ต้องบอกว่าสำเร็จลุล่วงด้วยดี ด้วยการประสานงานของอาจารย์สมเกียรติ แห่ง AKM Tourism ซึ่งนายมะริด ก็อยู่ร่วมในการปฏิบัติงาน ตั้งแต่วันที่ อาจารย์ได้รับจดหมายจากจังหวัดให้มีการจัดประชุม ประมาณวันที่ 7 กันยายน ซึ่งวันที่ 8 อาจารย์ต้องเดินทางไปย่างกุ้ง ผมเห็นอาจารย์ปั่นจดหมายเชิญประชุมจำนวน 17 ฉบับ เพื่อไปแจกข้าราชการฝั่งมูด่อง ซึ่งใช้รถของ ป้องกันจังหวัดพาบึ่งไปบ้านมูด่อง (แบบไม่ต้องตรวจลงตรา) และฝากเจ้าหน้าที่ของ AKM ที่มูด่อง ช่วยกระจายจดหมายให้ถึงมือท่านๆ อีกที จำได้ว่า เป็นเวลา 9.00 - 12.00 เพื่อให้อาจารย์กลับมาประจวบพร้อมเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อต่อเครื่องบินไปย่างกุ้งได้ .... นายมะริดรอดตายจากฝีเท้าของโชว์เฟอร์ ป้องกันจังหวัดมาได้ ก็นับว่าบุญแล้วครับ .....

เช้าวันที่ 19 ซึ่งเป็นวันประชุมอาจารย์สมเกียรติได้พานายมะริด ขึ้นไปมูด่องอีกด้วยรถตู้ นายมะริดยังงงๆๆ เอ๋อ ๆ ครับ ไปงวดนี้เพื่อรับข้าราชการท้องถิ่นมูด่องหลายท่าน ทั้งนายด่านตรวจ นายด่านศุลกากร นายแบงก์ และเจ้าหน้าที่สาว ๆ ของ AKM Tourism เพื่อทำหน้าที่ล่ามให้กับข้าราชการพม่าเหล่านั้น พวกเราตระเวณรับ และลงมาถึงห้องประชุมที่ด่านสิงขร ประมาณ 9.30 น. ไม่นานต่อจากนั้น ก็เริ่มประชุมโดยท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัด เปิดการประชุม

ส่วนผลการประชุมนั้น มีหลายเรื่องที่น่ายินดี และแจ้งให้แฟนานุแฟนได้ทราบ ดังนี้ครับ

1. จังหวัดประจวบได้เร่งจัดตั้งศูนย์วันสต๊อปเซอร์วิส  โดยใช้อาคารของศุลกากรไปก่อนชั่วคราว ครับ อยู่ระหว่างจัดหาเครื่องใช้สำนักงาน และจัดเจ้าหน้าที่ลงปฏิบัติประจำวัน ( ต่อไปการค้า การขนส่งแนวชายแดน ก็จะทำที่เดียวเบ็ดเสร็จแล้ว หน่วยราชการไทยประจำศูนย์นี้ 14 หน่วยงาน ครับ ) คาดว่าเดือน ตุลาคม 59 จะเปิดให้บริการได้ ก็เริ่มปีงบประมาณใหม่พอดีเนาะ

2. เรื่องการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นด่านสิงขร ทางอำเภอเมืองประจวบฯ ขอความร่วมมือให้นายอำเภอมูด่อง ช่วยดูข้อมูลที่่เป็นบุคคลมีอายุมาก ทีี่ทราบเรื่องราว และข้อมูลวัตถุต่าง ๆ 

3. อำเภอประจวบฯ ได้ตั้งศูนย์ดำรงธรรมส่วนหน้า ที่อาคารด่านศุลกากร หากพี่น้องท่านใดมีปัญหาติดขัดในระเบียบการปฏิบัติที่ด่าน เชิญเข้าร้องเรียนได้เลยครับ

4. ในวันที่ 27 พ.ย. ก็จะจัดงานปั่นจักรยานไปมูด่อง ถึงสะพานเก้ากันเลยทีเดียว ฝ่ายไทยขอความร่วมมือให้พม่าอำนวยความสะดวก ปักธง ตั้งจุดต้อนรับ และดูแลความปลอดภัย

5. ถามตอบในการประชุม จะเป้นเรื่องที่นายอำเภอมูด่อง ถาม และส่วนราชการไทยตอบในสี่ถึงห้าประเด็น ส่วนใหญ่เป็นข้อระเบียบฝั่งไทย ที่ยังไม่ประกาศให้ชัดเจน ( ต่อไปนี้ก็ชัดเจนแล้ว )

อ.สมเกียรติ กำลังจัดตำแหน่งการยืนของแต่ละฝ่าย ไทย เมียนมา

เมื่อเสร็จการประชุม ถ่ายรูปหมู่ร่วมกันแล้ว ก็เดินทางไปรับประทานอาหารร่วมกันที่ร้านอาหารผู้ใหญ่ฉอ้อน สาว ๆ AKM Tourism ได้ทำหน้าที่เสริฟอาหารผู้หลักผู้ใหญ่ฝั่งเมียนมา ได้อย่างดียิ่ง ข้าราชการระดับสูงที่มักคุ้นกันแล้วทั้งไทยและพม่า ก็นั่งโต๊ะเดียวกันบ้าง ที่ไม่คุ้นก็นั่งอยู่ในกลุ่มโต๊ะของตนเองบ้าง ส่วนนายมะริด ได้นั่งโต๊ะร่วมกับข้าราชการหนุ่มๆทั้งที่มาจาก ตะนาวศรี และ มูด่องครับ คุยกันรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง ก็ทานอาหารกันเอร็ดอร่อย พม่าตักแกงให้ผม ผมก็ตักข้าวให้คนพม่า คนพม่าตักปลาให้ผม ... ผมนายมะริด ขอกินก่อนหล่ะครับ ...

เมื่อได้เข้าไปส่งข้าราชการท้องถิ่นมะริดที่ศูนย์ราชการบ้านมูด่อง และบรรดาสาว ๆ ของ AKM Tourism เสร็จทุกคนแล้ว การประชุมครั้งนี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

การประชุมครั้งหน้าต้องเกิดมีขึ้นอีกแน่นอนครับ ...

พบกันใหม่ครับ

สาระข่าวทางราชการต้องอ่าน ที่นี่ครับ